ปลอบใจน้องสาวลูกติดแม่เลี้ยง 

เรื่องที่ผมจะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องจริงนะครับ ประสบการณ์เสียวครั้งนี้มีต้นตอมาจากพ่อของผมนั้นแต่งงานใหม่กับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเธอมีลูกติดมาด้วยเป็นสาวน้อยวัยแรกแย้ม เพิ่งเรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่ง ตัวผมอายุ 26 ครับทำงานอยู่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง และอาศัยอยู่ในบ้านของพ่อเป็นปกติจนวันที่สองแม่ลูกย้ายเข้ามา 

พ่อแนะนำให้รู้จักกับตาล เด็กสาวหน้าตาดี ผมยาวสลวย ตัวเล็กๆ และน้านุ่นอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับพ่อ ท่านอยากให้คิดเสียว่านี่เป็นแม่และน้องสาวอีกคน เวลาต่อมาครอบครัวของเราเข้ากันได้ดีแทบหลอมรวมกันเป็นบ้านแสนอบอุ่น ทุกเย็นหลังเลิกงานผมจะวนรถไปรอรับตาลที่มหาลัยตลอดหากต้องกลับพร้อมกัน อย่างว่าล่ะครับ เธอดูน่าเป็นห่วงจริงๆ สมัยนี้อาชญากรรมก็เยอะ ออกข่าวคนฆ่ากันเป็นว่าเล่น 

มีอยู่วันหนึ่งรถผมถูกชนและส่งเข้าไปทำสีที่ศูนย์ ผมยอมลงทุนขนาดที่ว่านั่งรถโดยสารวนไปอีกฟากเพื่อรอรับเธอหลังเลิกเรียนด้วยตัวเอง ฟังดูเหมือนเด็กใช่ไหมล่ะครับ ที่ว่าทำขนาดนี้หลายคนคงพอเดาออกว่าผมไม่ได้คิดกับเธอแค่น้อง แต่ทว่าเธอคิดกับผมแค่พี่ชายจริงๆ 

เรานั่งรถเมล์ไปด้วยกัน แต่วันนี้ตาลดูเศร้าผิดปกติ ผมแอบเห็นว่าเธอตาแดงเหมือนร้องไห้มา ซึ่งไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลประการใด “ตาลร้องไห้หรอ” ผมถามเธอด้วยความห่วง สาวน้อยเงยหน้ามองผมที่อยู่ข้างพร้อมเบะปากทำท่าจะร้องอีกหน ผมไม่รู้ด้วยซ้ำและไม่กล้าจะถามตรงนี้ แต่เมื่อเราลงจากรถกลับถึงบ้านเธอก็โผลเข้ากอดผมแล้วร้องไห้ทันที “เขาทิ้งหนูไปแล้วพี่ธง เขาไม่รักหนูแล้ว” ผมพอรู้มาบ้างว่าตาลมีแฟนที่คบกันมาน นั่นนับว่าเป็นเรื่องบั่นทอนหัวใจ 

ตาลเดินใจลอยขึ้นบันไดไป ผมแอบตามเธอไปห่างๆ เพราะกลัวจะเหม่อจนเกิดอุบัติเหตุเอา และแล้วมันก็จริงแต่เป็นเพียงแค่เล็กน้อย ตาลสะดุดขาตัวเองล้มนั่งลงกับพื้น เธอนั่งร้องไห้ด้วยความน่าสงสาร หัวใจผมเองเริ่มห่อเหี่ยว พ่ายแพ้ให้กับน้ำตาของสาวน้อย ผมนั่งลงข้างๆเธอตัดสินใจแน่วแน่จูบเข้าที่ริมฝีปากอวบอิ่มเพื่อแสดงความรัก “พี่ธงทำอะ” เธอยังไม่ทันได้พูดจบผมก็ประกบจูบเข้าอีกครั้งอย่างค่อยเป็นค่อยไป 

“พี่รักตาลนะ ถึงตาลจะรักพี่แบบพี่ชายก็เถอะ” ว่าจบผมก็รุกเข้าอีกครั้ง คราวนี้ตาลเลื่อนมือขึ้นมาโอบรัดต้นคอของผมไว้ ผมช้อนร่างเธอขึ้นอุ้มแอบได้ยินเสียงสะอื้นนิดๆ มุ่งหน้าไปยังห้องนอนของตาล  ปิดประตูและวางร่างเธอลงบนเตียงรวมถึงตัวผมที่เอนลงตาม ผมไล่จูบตั้งแต่หน้าผากยันคาง ตาลส่งสัญญาณว่าเธอยินยอมแต่ก็ยังร้องไห้ “ช่วยทำให้หนูหยุดร้องไห้ทีนะคะ” ได้ยินแบบนั้นแล้วหัวใจผมสั่นระรัว มันชี้นำว่าผมต้องทะนุถนอมเธอเอามากๆ 

ผมถอดเสื้อของเธอออก รวมถึงกระโปรง ทุกอย่างเกิดขึ้นไวจนตั้งตัวแทบไม่ทัน ผมไม่ได้พกแม้กระทั่งถุงยางอนามัย จะซื้อก็ไม่อยากปล่อยตาลไว้เพียงลำพัง เลยตัดสินใจควบคุมในภายหลังแทน ผมเคยอยากจะกอดเธอให้แน่นและครั้งนี้ก็ได้ทำจริงๆ เนื้อตัวของเราแนบชิดกันกว่าที่เคย ผมไล่พรมจูบบริเวณลำคอขาวมาถึงบริเวณหน้าอกเต่งตึงจากนั้นจึงปลดตะขอบราตัวสวยออก หน้าอกของตาลขนาดกำลังพอดี การพรมจูบเกิดขึ้นอีกครั้งบริเวณเนินอกนุ่มนิ่ม รวมถึงหัวนมสีชมพู ผมทั้งดูดสลับเลียด้วยลิ้น ตาลเองแอ่นอกรับกัดริมฝีปากเริ่มทำหน้าบิดเบี้ยว 

ใช้เวลาชั่วครู่น้ำตาของเธอก็หายไปแปลเปลี่ยนเป็นเสียงซี๊ดเพราะความเสียว ผมใช้นิ้วชี้เกี่ยวเอากางเกงชั้นในเธอลง ชื่นชมเนินนูนและร่องอันอวบอิ่มมีขนอ่อนๆ แซมปะปราย เธอช่างเซ็กซี่เหลือเกิน ผมชัดจะอยากลิ้มลองแม้รู้ว่าเธอผ่านอะไรต่อมิอะไรมาทั้งวัน ผมใช้ลิ้นแตะและเลียไปตามจุดไวต่อความรู้สึกของเธอ ผ่านบริเวณต่างๆ วนอยู่พักใหญ่ ตาลส่งเสียงครางในลำคอประหนึ่งว่าเสียวจนทนไม่ไหว ความตั้งใจของผมคืออยากทำให้เธอเสร็จก่อนแล้วจึงเป็นฝ่ายบุกรุกเข้าไปยังน่านน้ำ 

จนกระทั่งผมใช้แหย่เกี่ยวเข้าไปในรูลึกสลับกับวาดลิ้นตามร่องรอยอารยะธรรมพาสาวน้อยตัวเกร็ง มือจิกผ้าปูเตียงแน่น เป็นอันรู้ว่าเธอเสร็จเรียบร้อย ผมรีบต่อโดยการพาดแท่งแข็งอุณหภูมิอุ่นๆ ไว้บนเนินก่อนลากลงมาจ่อหน้าช่องทางดำเนินกิจกรรม ผมโยกตัวดันเข้าไปในรูซึ่งเต็มไปด้วยน้ำใสไหลเยิ้ม ต่อด้วยการโน้มตัวลงมาประกบจูบสาวน้อยเอาไว้ 

จังหวะรักของเราทั้งสองเป็นไปอย่างสวยงามบนวิถีแห่งความเสียว ผมได้ยินเสียงเธอครางใกล้หูมากๆ ขณะที่เราเร่งจังหวะเข้าออก ได้มองหน้าเธอใกล้ๆ ลูบหัวและถูกโอบกอดเอาไว้อย่าที่เคยฝัน ไม่นานนักอารมณ์อันพุ่งพล่านก็ชวนผมเร่งความเร็วเพื่อขับเคลื่อนน้ำสีขาวขุ่นพุ่งเข้าไปด้านในตัวตาล ผมรู้ว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรอย่างยิ่ง ทว่ายากที่จะห้ามใจเสียเหลือเกิน