โรคจิตบนรถตู้

โรคจิตบนรถตู้

โรคจิตบนรถตู้

     ฉันมิ้น เด็กสาวอายุเพียง 17 ต้องย้ายโรงเรียนตามพ่อ ซึ่งเป็นราชการครูไปต่างจังหวัด แต่ด้วยพ่อและแม่มักจะมีปากเสียงทะเลาะกันบ่อย เรื่องที่แม่ขโมยเงินของพ่อไปเล่นพนัน ครั้งนี้พ่อจึงตกลงจะพาแค่ฉันทำเรื่องย้ายโรงเรียนไปอยู่จังหวัดหนึ่งทางอีสานด้วย ในขณะที่ตกลงส่งเงินให้แม่ทุก 2 สัปดาห์แทน เพื่อพ่อจะได้ควบคุมเงินแม่ ฉันเองไม่ได้อยากย้ายโรงเรียน เพราะสองสามปีย้ายแต่ละครั้งฉันก็เหนื่อย แต่ก็จนใจแสดงความเห็นอย่างไรไปก็แค่นั้น เพราะพ่อบอกว่าย้ายไปโรงเรียนเดียวกับที่พ่อประจำอยู่ พ่อจะดูแลฉันได้ง่ายกว่า เพราะฉันก็เป็นเด็กเกเร ด้วยปัญหาที่บ้าน พ่อแม่ทะเลาะฉันมักไม่อยากกลับบ้าน จึงออกไปอยู่กับพี่ติ๊ก แฟนเด็กช่างโรงเรียนใกล้ๆ ที่หอ พ่อคงตั้งใจให้เราไกลกันไปด้วย

 

หลังจากย้ายมาได้ ฉันก็ต้องปรับตัวเหมือนทุกครั้ง “เด็กใหม่” คือคำเรียกติดหูที่ได้ยินบ่อยกว่าชื่อตัวเอง ฉันยังคงติดต่อพี่ติ๊ก ฉันเองก็ไม่ใช่เด็กสาวไม่ประสีประสา ฉันมีอะไรกับพี่ติ๊กหลายครั้ง ของพี่ติ๊กฝังมุกฉันเจ็บมากทุกครั้ง แต่ก็ยอม แค่ได้มีที่ไปไม่ต้องกลับบ้าน แต่พอไกลกันก็คุยกันน้อยลง ทะเลาะกันบ้างตามเรื่อง ฉันยังคงติดต่อโทรหาแม่ ถามสารทุกข์ดิบ ครั้นครั้งนี้แม่โทรมาบอกว่าไม่สบายมาก อยากให้ฉันกลับไปหาในวันหยุดสุดสัปดาห์ฉันที่โทรคุยกับแม่ไว้ตั้งแต่พฤหัสบดี จึงไปบอกพ่อ

 

     พ่อก็เช่นเดิมหาว่าแม่คงอยากได้เงินไปเล่นพนันอีก ฉันยืนยันว่ายังไงก็จะกลับบ้าน ฉันอ้างว่าจะกลับไปเอาเอกสารสำคัญมาส่งโรงเรียนด้วย พ่อจึงให้เงินฉันพกติดตัวไว้จำนวนหนึ่ง ซึ่งก็เอาไว้ไปฝากแม่ด้วยนั้นละ ก่อนวันเดินทางฉันโทรหาพี่ติ๊ก ด้วยความเสี้ยนที่ไม่ได้ทำเรื่องอย่างว่านานจึงคิดจะโดดเรียนกลับตั้งแต่วันศุกร์เพื่อไปเปิดห้องสบายๆ ค้างกับพี่ติ๊ก ฉันคิดว่าคงจะดีกว่าไปนอนหอพี่ติ๊กที่มีแค่พัดลมร้อนๆ

 

“ฮัลโหล พี่ติ๊กศุกร์นี้เจอกันมั้ย มิ้นได้ตังค์พ่อมาละ จะกลับบ้าน ไปเปิดห้องกันดีกว่า ละนี่พี่ทำอะไรอยู่” ฉันถามพิ่ติ๊กเพราะตอนนี้ก็ห้าทุ่มจะเที่ยงคืนแล้ว

 

“ก็นอนเล่นอยู่ ทำไมมิ้นอยากของพี่แล้วเหรอ” พี่ติ๊กถาม

 

“ก็อยากดิ ไม่เจอตั้งสองเดือนละ” ฉันพูดเสียงอ่อย ก่อนจะค่อยๆ ล่วงมือลงไปแตะคว้านตรงร่อง

 

“ได้ดิ พี่ก็อยาก แข็งโด่งแล้วเนี่ย” พี่ติ๊กพูดเสียงกระเส่า ฉันหลับตาแล้วค่อยๆ ลากนิ้วลงตรงร่อง

 

“อื้ออออ เงี่ยนจัง แฉะรอแล้วเนี่ย” ฉันตอบ พลางตกเบ็ดล่วงหอยที่แฉะน้ำไปด้วย

 

“มิ้นนนน ทำอยู่ใช่มั้ย ศุกร์นี้จะเอาให้หายอยากเลย แตกในนะมิ้น” พี่ติ๊กพูด ซึ่งปกติฉันจะกินยา
คุม ให้แตกในอยู่แล้ว

 

“แตกสิ แตกแรงๆ เลยนะ จะดูดให้แตกปากด้วย อยากอมควยพี่จัง” ฉันพูดพลางเร่งนิ้วสอดให้ตัวเองเสร็จ “อ๊า ใกล้แล้วพี่ติ๊กจ้า” 

 

“จะแทงให้มิดด้ามเลย เจ็บนะของพี่” พี่ติ๊กพูด ฉันซอยนิ้วรัว จนน้ำนอง เสียวสุดๆ จนหีตอดกระตุกรับมือ น้ำแตกเต็มนิ้ว “อื้ออออ เสียวจังพี่ติ๊ก”

 

“ศุกร์นี้เสียวกว่านี้อีก รอนะ เสร็จยังหึ” พี่ติ๊กถาม

 

“เสร็จแล้ว น้ำเต็มมือเลย” ฉันตอบ

 

“เจอกันนะมิ้น แค่นี้นะ เดี๋ยวพี่จะออกไปข้างนอกกับไอพวกนี้ มันไลน์มาละ” พี่ติ๊กตอบก่อนที่เราทั้งคู่จะวางสายกันไป

 

     ฉันรอให้ถึงวันศุกร์ด้วยใจจดจ่อ วันนั้นฉันก็ลาพ่อไปเรียนตามปกติ แต่จริงๆแล้ว ฉันพาชุดบ้านไปเปลี่ยนที่ปั้ม และไม่ได้ไปโรงเรียนเพราะตั้งใจจะข้ามจังหวัดตั้งแต่ช่วงบ่าย ด้วยช่วงนี้ฝนตกหนัก มืดฟ้ามืดฝนอยู่แล้ว จึงอยากไปให้ถึงก่อนเย็นมืด ฉันไปเที่ยวเดินห้างฆ่าเวลา วันนี้ฉันใส่เดรสกระโปรงยาวเหนือเข่า พอถึงบ่ายจึงไปซื้อตั๋วรถตู้ รอแล้วรอเล่าก็มีคนแค่ 4 คน ที่ซื้อตั๋วรถกลับ รวมคนขับแล้วก็มีแค่ 5 คน

 

ฉันซึ่งเมารถเป็นทุนเดิม คิดในใจว่าดีละแบบนี้เลือกที่นั่งตรงไหนก็ได้สบาย ฉันขึ้นรถไปนั่งหลังสุดคนเดียว สองคนที่มาด้วยกันนั่งหลังคนขับ กระทั่งมีผู้ชายคนหนึ่งผิวเข้มขึ้นรถมาหลังสุด ท่าทางแปลกๆ มองมาที่ฉัน แต่ฉันก็ไม่นึกอะไร เขานั่งหน้าฉันไปหนึ่งแถว ระหว่างทางซึ่งไกล ฝนก็ตกลงมาไม่ขาด บรรยากาศมืดฟ้าครึ้มฝน ฉันง่วงจึงผ่อยหลับไป

 

     รู้สึกตัวอีกทีเหมือนมีมือมาจับต้องหน้าขาอ่อนพยายามจะล่วงขึ้นมา ฉันที่นั่งเอามือผิงกับเบาะด้านหน้าจึงค่อยๆ ลืมตามอง มีมือกำลังลูบอยู่ตรงหน้าขาฉันจริงๆ ฉันคิดได้ในทันทีว่าต้องเป็นผู้ชายคนนั้นแน่ๆ แต่ด้วยความเสี้ยนตั้งแต่คืนก่อนที่โทรหาพี่ติ๊ก ฉันจึงไม่ได้นึกห้ามอะไร

 

     ฉันค่อยๆ ขยับขาออกให้มือนั้นล่วงขึ้นมาง่ายขึ้น แต่เหมือนผู้ชายคนนี้ยังกล้าๆ กลัวๆ ฉันจึงเอามือซ้ายจับมือเขาลูบข้างขาอ่อนขึ้นมา เขาชะงักไปเล็กน้อย แล้วกระซิบข้างหูฉันที่ยังก้มหน้าอยู่ว่า “ช่วยพี่หน่อยนะ” ฉันยื่นมือไปลูบตรงเป้ากางเกงพี่เขา ควยแข็งโด่งออกมา เขาปลดซิปลงตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ เขาล่วงมือเข้ามาแหวกกางเกงในไว้ข้างๆ น้ำเงี่ยนฉันไหลออกมาด้วยความตื่นเต้น “อื้อออ” ฉันครางเบาๆ เพราะเขาเอานิ้วแหย่ดันลงมาให้ฉันแต่ดันลึกเข้ามาทีเดียวถึง 2 นิ้ว ฉันเงี่ยนมาก อีกมือฉันก็ช่วยชักให้พี่เขา ของพี่เขาใหญ่พอๆ กับของพี่ติ๊ก หัวม่วงแดง แฉะน้ำเงี่ยน ฉันอยากดูดกินน้ำมาก แต่พี่เขาก็ใช้นิ้วซอยเข้าออกไม่หยุดสลับกับเอาอีกมือขึ้นมาบีบนมฉัน “โอ๊ยยยย” ฉันครางเบาๆ ดีที่วันนี้ฝนตกหนัก เสียงฝนดังกลบ

 

คนในรถที่หลับกันหมดยกเว้นคนขับ ก็ไม่มีใครรู้ว่าฉันกำลังทำอะไร “เสร็จแล้วอมให้พี่นะ” ผู้ชายคนนั้นไซร้ข้างหูฉันและพูด พลางเร่งข้อมือ ซอยนิ้วสากๆ สองนิ้วเข้าออก ฉันจากที่นั่งก้มก็เงยหน้าขึ้น “อื้อออออ” ฉันเด้งหีรับมือนั้น พี่เขาก็เร่งนิ้วซอยไม่หยุด เน้นๆ จนฉันแตกแฉะทั้งกางเกงใน “อยากเลียหีให้น้องจัง พี่ขอเบอร์ไว้ได้มั้ย” ฉันไม่ได้ตอบอะไร หันหน้าไปหาพี่เขา แล้วก้มลงเลียตรงโคนหัวสีม่วงบาน มันแฉะน้ำเงี่ยนจนได้กลิ่นคาว ฉันดูดเลีย เม้มปาก พี่เขาลูบและดึงผมให้ฉัน ฉันอมรูดลงจนมิดด้าม แล้วจึงเอาลิ้นเลียเน้นส่วนหัว “อ๊า พี่ใกล้ละ” ฉันเร่งดันควยดูด


     เม้มเข้าออกปาก” จนพี่เขากดหัวฉันไว้แน่น เกือบสำลัก น้ำเงี่ยนพุ่งออกมาเลอะเต็มปากฉัน โดนคอด้วยส่วนหนึ่ง ฉันเงี่ยนมาก ดูดเลียน้ำเงี่ยนพี่เขา ส่วนพี่เขาก็เอาทิชชู่ให้ฉันเช็ดส่วนที่เลอะคอ เราไม่ได้พูดอะไรกันอีกระหว่างทาง เขายื่นโทรศัพท์มาทำท่าเหมือนจะขอเบอร์ติดต่อ ฉันก็เมมเบอร์ให้เขาไป คืนนั้นฉันก็ไปต่อกับพี่ติ๊กอีกจนเช้า แต่ก็ไม่ลืมพี่โรคจิตบนรถตู้คนนี้เลย ทั้งตื่นเต้น ทั้งเงี่ยน



บทความล่าสุด